สำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยบูรพา
หน้าแรก
|
แก้ไขข้อมูล
|
หัวข้อล่าสุด
|
สมาชิก
|
ค้นหา
|
FAQ
Username:
Password:
Save Password
All Forums
รวมบทความวิชาการน่ารู้
บทความรายการสุขภาพดี-ชีวีมีสุข
ไข้เลือดออกร้ายกับเจ้ายุงลายในฤดูฝน
คำแนะนำ :
คุณต้องลงทะเบียนก่อนจึงจะสามารถโพสได้ครับ
Screensize:
640 x 480
800 x 600
1024 x 768
1280 x 1024
UserName:
Password:
Format Mode:
Basic
Help
Prompt
Format:
Font
Andale Mono
Arial
Arial Black
Book Antiqua
Century Gothic
Comic Sans MS
Courier New
Georgia
Impact
Lucida Console
Script MT Bold
Stencil
Tahoma
Times New Roman
Trebuchet MS
Verdana
Size
1
2
3
4
5
6
Color
Black
Red
Yellow
Pink
Green
Orange
Purple
Blue
Beige
Brown
Teal
Navy
Maroon
LimeGreen
Message:
* HTML is OFF
*
Forum Code
is ON
Smilies
[quote][i]Originally posted by admin[/i] [br][right][b][green]ปีงบประมาณ 2563[/green][/b][/right] [center][b][blue]ไข้เลือดออกร้ายกับเจ้ายุงลายในฤดูฝน อาจารย์วิชชาภรณ์ คิดสำโรง[/blue][/b][/center] สวัสดีค่ะท่านผู้ฟังรายการ สุขภาพดีชีวีมีสุข วันนี้คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ขอเสนอเกร็ดความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ ในตอนที่มีชื่อว่า ไข้เลือดออกร้ายกับเจ้ายุงลายในฤดูฝน ในช่วงนี้ก็ยังคงอยู่ในช่วงของฤดูฝน ท่านผู้ฟังบางท่านอาจจะชอบฤดูฝนเพราะในขณะที่ฝนตกโปรยปรายลงมานั้นทำให้อากาศเย็นสบาย ภายหลังฝนหยุดตกยังทำให้รู้สึกสดชื่น ด้วยหยดน้ำฝนที่ชุ่มฉ่ำที่เกาะอยู่บนต้นไม้ใบหญ้าที่เขียวชอุ่ม พร้อมทั้งแสงแดดอ่อน ๆ ช่างเป็นบรรยากาศที่น่ารื่นรมย์จริง ๆ แต่ท่านผู้ฟังทราบไหมคะว่า ในฤดูกาลที่น่ารื่นรมย์นี้แอบแฝงไปด้วยภัยร้ายจากเจ้ายุงลายที่อาจจะนำพาโรคไข้เลือดออกมาสู่ลูกหลานของเรา หรือตัวท่านผู้ฟังเอง โรคไข้เลือดออก หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า โรคไข้เลือดออกเดงกี เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี (dengue virus) ที่ถูกนำมาโดยยุงลายตัวเมีย โดยเมื่อยุงลายตัวเมียกัดและดูดเลือดของผู้ป่วยที่เป็นโรคไข้เลือดออกที่อยู่ในระยะไข้ เชื้อไวรัสเดงกีจะเข้าสู่ยุงลาย และสะสมอยู่ในต่อมน้ำลายของยุงลาย เมื่อยุงลายที่มีเชื้อไวรัสเดงกีไปกัดคนอื่น ๆ ก็จะปล่อยเชื้อไวรัสนี้ไปยังคนที่ถูกกัด ทำให้คนคนนั้นป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกได้ ซึ่งจะมีระยะฟักตัวของโรคอยู่ประมาณ 5-8 วัน หลังจากนั้นจะทำให้ผู้ป่วยแสดงอาการของโรค อาการของโรคไข้เลือดออกจะมีระดับความรุนแรงที่แตกต่างกันไปในแต่ละคน โดยจะพบอาการตั้งแต่อาการรุนแรงน้อยไปจนถึงอาการรุนแรงมาก และเสียชีวิตได้ ซึ่งอาการของโรคไข้เลือดออก มีดังนี้ 1. มีไข้สูงลอย 39-40 องศาเซลเซียส อยู่ 2-7 วัน 2. มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร 3. อาจพบจ้ำเลือดหรือจุดเลือดออกสีแดงเล็ก ๆ ตามผิวหนัง หรือมีเลือดออกบริเวณอื่น เช่น เลือดออกตามไรฟัน เลือดกำเดาไหล และมีเลือดปนในปัสสาวะหรืออุจจาระ เป็นต้น 4. ปวดท้องอย่างรุนแรง กดเจ็บบริเวณชายโครงด้านขวา เนื่องจากมีภาวะตับโต 5. ภายหลังจากที่ไข้ลดลง 24-48 ชั่วโมง ผู้ป่วยบางรายอาจเกิดภาวะการไหลเวียนโลหิตล้มเหลวหรือภาวะช็อก (shock) โดยผู้ป่วยจะมีอาการกระสับกระส่าย ปลายมือปลายเท้าเย็น ปัสสาวะน้อยลง ไข้ลดลงอย่างรวดเร็ว ความดันโลหิตลดต่ำ วัดชีพจรไม่ได้ ซึ่งเป็นอาการในระดับรุนแรงมาก หากพบว่ามีอาการของโรคไข้เลือดออกดังที่ได้กล่าวมาแล้วในข้างต้นควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยโรค และควรมีการดูแลตนเองหากเป็นโรคไข้เลือดออก ดังนี้ 1. หากมีไข้สูงให้ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวลดไข้บ่อย ๆ และรับประทานยาลดไข้พาราเซตามอล (paracetamol) ห่างกันทุก 4-6 ชั่วโมง ห้ามรับประทานยาแอสไพริน (aspirin) โดยเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้มีเลือดออกได้ง่ายขึ้น 2. รับประทานอาหารอ่อน ๆ เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก และดื่มน้ำมาก ๆ 3. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 4. เฝ้าสังเกตอาการผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีอาการอาเจียนมาก ปวดจุกท้อง ตัวตาเหลือง มีจ้ำเลือดหรือมีอาการเลือดออก หรือมีอาการของภาวะช็อกเกิดขึ้นควรรีบไปพบแพทย์ทันที โรคไข้เลือดออกสามารถป้องกันไม่ไห้เกิดได้ ด้วยการป้องกันตัวเองไม่ให้ยุงกัด โดยเฉพาะยุงลาย นอนกางมุ้ง ทายากันยุง และสวมใส่เสื้อผ้าที่มิดชิด และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยคือการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย โดยกำจัดขยะหรือภาชนะที่มีน้ำขัง ปิดฝาโอ่งน้ำให้สนิท ใส่เกลือแกงหรือทรายอะเบตในจานรองขาตู้ทุกสัปดาห์ หมั่นดูแลบริเวณบ้านให้สะอาด และใส่ปลาหางนกยูงลงในอ่างบัว หรือถังเก็บน้ำในห้องน้ำเพื่อกินลูกน้ำยุงลาย เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้เราห่างไกลจากโรคไข้เลือดออก และฤดูฝนที่น่ารื่นรมย์ของเราก็จะกลับมาดังเดิม สำหรับวันนี้เวลาหมดลงแล้ว หวังว่าทุกท่านจะได้รับสาระดี ๆ ในการดูแลตนเองให้ห่างไกลจากโรคไข้เลือดออก เพื่อให้มีสุขภาพแข็งแรงนะคะ พบกับรายการ สุขภาพดี ชีวีมีสุข ได้ใหม่ในครั้งต่อไป สวัสดีค่ะ [b]แหล่งอ้างอิง[/b] กรมควบคุมโรค. (2562). ไข้เลือดออก (Dengue Fever). วันที่สืบค้นข้อมูล 31 กรกฎาคม 2563, เข้าถึงได้จาก https://ddc.moph.go.th/disease_detail.php?d=44 นพพร อภิวัฒนากุล. (2559). ไข้เลือดออก ภัยร้ายใกล้ตัว. สืบค้นข้อมูล 31 กรกฎาคม 2563, เข้าถึงได้จาก https://www.rama.mahidol.ac.th/atrama/issue023/rama-varieties โรงพยาบาลเด็กแห่งชาติมหาราชินี และสำนักโรคติดต่อนำโดยแมลงกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2557). แนวทางการพยาบาลผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก. นนทบุรี: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย. [/quote]
Check here to include your profile signature.
T O P I C R E V I E W
admin
Posted - 13 Jan 2021 : 15:00:10
ปีงบประมาณ 2563
ไข้เลือดออกร้ายกับเจ้ายุงลายในฤดูฝน
อาจารย์วิชชาภรณ์ คิดสำโรง
สวัสดีค่ะท่านผู้ฟังรายการ สุขภาพดีชีวีมีสุข วันนี้คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ขอเสนอเกร็ดความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ ในตอนที่มีชื่อว่า ไข้เลือดออกร้ายกับเจ้ายุงลายในฤดูฝน ในช่วงนี้ก็ยังคงอยู่ในช่วงของฤดูฝน ท่านผู้ฟังบางท่านอาจจะชอบฤดูฝนเพราะในขณะที่ฝนตกโปรยปรายลงมานั้นทำให้อากาศเย็นสบาย ภายหลังฝนหยุดตกยังทำให้รู้สึกสดชื่น ด้วยหยดน้ำฝนที่ชุ่มฉ่ำที่เกาะอยู่บนต้นไม้ใบหญ้าที่เขียวชอุ่ม พร้อมทั้งแสงแดดอ่อน ๆ ช่างเป็นบรรยากาศที่น่ารื่นรมย์จริง ๆ แต่ท่านผู้ฟังทราบไหมคะว่า ในฤดูกาลที่น่ารื่นรมย์นี้แอบแฝงไปด้วยภัยร้ายจากเจ้ายุงลายที่อาจจะนำพาโรคไข้เลือดออกมาสู่ลูกหลานของเรา หรือตัวท่านผู้ฟังเอง
โรคไข้เลือดออก หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า โรคไข้เลือดออกเดงกี เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี (dengue virus) ที่ถูกนำมาโดยยุงลายตัวเมีย โดยเมื่อยุงลายตัวเมียกัดและดูดเลือดของผู้ป่วยที่เป็นโรคไข้เลือดออกที่อยู่ในระยะไข้ เชื้อไวรัสเดงกีจะเข้าสู่ยุงลาย และสะสมอยู่ในต่อมน้ำลายของยุงลาย เมื่อยุงลายที่มีเชื้อไวรัสเดงกีไปกัดคนอื่น ๆ ก็จะปล่อยเชื้อไวรัสนี้ไปยังคนที่ถูกกัด ทำให้คนคนนั้นป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกได้ ซึ่งจะมีระยะฟักตัวของโรคอยู่ประมาณ 5-8 วัน หลังจากนั้นจะทำให้ผู้ป่วยแสดงอาการของโรค
อาการของโรคไข้เลือดออกจะมีระดับความรุนแรงที่แตกต่างกันไปในแต่ละคน โดยจะพบอาการตั้งแต่อาการรุนแรงน้อยไปจนถึงอาการรุนแรงมาก และเสียชีวิตได้ ซึ่งอาการของโรคไข้เลือดออก มีดังนี้
1. มีไข้สูงลอย 39-40 องศาเซลเซียส อยู่ 2-7 วัน
2. มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร
3. อาจพบจ้ำเลือดหรือจุดเลือดออกสีแดงเล็ก ๆ ตามผิวหนัง หรือมีเลือดออกบริเวณอื่น เช่น เลือดออกตามไรฟัน เลือดกำเดาไหล และมีเลือดปนในปัสสาวะหรืออุจจาระ เป็นต้น
4. ปวดท้องอย่างรุนแรง กดเจ็บบริเวณชายโครงด้านขวา เนื่องจากมีภาวะตับโต
5. ภายหลังจากที่ไข้ลดลง 24-48 ชั่วโมง ผู้ป่วยบางรายอาจเกิดภาวะการไหลเวียนโลหิตล้มเหลวหรือภาวะช็อก (shock) โดยผู้ป่วยจะมีอาการกระสับกระส่าย ปลายมือปลายเท้าเย็น ปัสสาวะน้อยลง ไข้ลดลงอย่างรวดเร็ว ความดันโลหิตลดต่ำ วัดชีพจรไม่ได้ ซึ่งเป็นอาการในระดับรุนแรงมาก
หากพบว่ามีอาการของโรคไข้เลือดออกดังที่ได้กล่าวมาแล้วในข้างต้นควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยโรค และควรมีการดูแลตนเองหากเป็นโรคไข้เลือดออก ดังนี้
1. หากมีไข้สูงให้ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวลดไข้บ่อย ๆ และรับประทานยาลดไข้พาราเซตามอล (paracetamol) ห่างกันทุก 4-6 ชั่วโมง ห้ามรับประทานยาแอสไพริน (aspirin) โดยเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้มีเลือดออกได้ง่ายขึ้น
2. รับประทานอาหารอ่อน ๆ เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก และดื่มน้ำมาก ๆ
3. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
4. เฝ้าสังเกตอาการผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีอาการอาเจียนมาก ปวดจุกท้อง ตัวตาเหลือง มีจ้ำเลือดหรือมีอาการเลือดออก หรือมีอาการของภาวะช็อกเกิดขึ้นควรรีบไปพบแพทย์ทันที
โรคไข้เลือดออกสามารถป้องกันไม่ไห้เกิดได้ ด้วยการป้องกันตัวเองไม่ให้ยุงกัด โดยเฉพาะยุงลาย นอนกางมุ้ง ทายากันยุง และสวมใส่เสื้อผ้าที่มิดชิด และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยคือการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย โดยกำจัดขยะหรือภาชนะที่มีน้ำขัง ปิดฝาโอ่งน้ำให้สนิท ใส่เกลือแกงหรือทรายอะเบตในจานรองขาตู้ทุกสัปดาห์ หมั่นดูแลบริเวณบ้านให้สะอาด และใส่ปลาหางนกยูงลงในอ่างบัว หรือถังเก็บน้ำในห้องน้ำเพื่อกินลูกน้ำยุงลาย เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้เราห่างไกลจากโรคไข้เลือดออก และฤดูฝนที่น่ารื่นรมย์ของเราก็จะกลับมาดังเดิม
สำหรับวันนี้เวลาหมดลงแล้ว หวังว่าทุกท่านจะได้รับสาระดี ๆ ในการดูแลตนเองให้ห่างไกลจากโรคไข้เลือดออก เพื่อให้มีสุขภาพแข็งแรงนะคะ พบกับรายการ สุขภาพดี ชีวีมีสุข ได้ใหม่ในครั้งต่อไป สวัสดีค่ะ
แหล่งอ้างอิง
กรมควบคุมโรค. (2562). ไข้เลือดออก (Dengue Fever). วันที่สืบค้นข้อมูล 31 กรกฎาคม 2563, เข้าถึงได้จาก
https://ddc.moph.go.th/disease_detail.php?d=44
นพพร อภิวัฒนากุล. (2559). ไข้เลือดออก ภัยร้ายใกล้ตัว. สืบค้นข้อมูล 31 กรกฎาคม 2563, เข้าถึงได้จาก
https://www.rama.mahidol.ac.th/atrama/issue023/rama-varieties
โรงพยาบาลเด็กแห่งชาติมหาราชินี และสำนักโรคติดต่อนำโดยแมลงกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2557). แนวทางการพยาบาลผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก. นนทบุรี: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
สำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยบูรพา
© สำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยบูรพา
This page was generated in 0.11 seconds.
Snitz Forums 2000